กลยุทธ์การซื้อขาย โดย Antonis

6 น.

อัปเดตล่าสุด: Wed Nov 12 2025

Stop-Loss: สัญญาของคุณกับตลาด

Stop-Loss: สัญญาของคุณกับตลาด

ครั้งหนึ่ง นักเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ ระดับตำนานถูกถามถึงบทเรียนสำคัญที่สุดจากอาชีพการงานอันยาวนานหลายทศวรรษของเขา เขาไม่ได้เอ่ยถึงตัวบ่งชี้ลับหรือแบบจำลองการคาดการณ์ที่ซับซ้อน เขาชี้ไปที่เส้นที่วาดไว้บนแผนภูมิก่อนเข้าเทรด เขากล่าวว่า “เส้นนั้นคือจุดที่ผมคิดผิด”

ก่อนที่ฉันจะคิดด้วยซ้ำว่าฉันจะหาเงินได้เท่าไหร่ ฉันจะกำหนดจุดที่ไอเดียของฉันใช้ไม่ได้ให้ชัดเจน ถ้าราคาแตะจุดนั้น ฉันก็หมดสิทธิ์

ไม่มีคำถาม ไม่มีความลังเล ตลาดไม่สนใจความคิดเห็นของผม และนั่นคือสัญญาที่ผมมีกับความเป็นจริง” การกระทำง่ายๆ นี้ การยอมรับความผิดพลาดที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ก่อให้เกิดรากฐานของการเทรดอย่างมีวินัย จุดตัดขาดทุนไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่มันคือข้อตกลงที่เทรดเดอร์ทำกับตลาดเพื่อรักษาเงินทุนและรักษาความสม่ำเสมอ

Stop-loss คืออะไร?

Stop-loss คือคำสั่งที่โบรกเกอร์วางไว้เพื่อปิดสถานะเมื่อราคาถึงราคาที่กำหนด เพื่อจำกัดการขาดทุนในการซื้อขายนั้น สำหรับสถานะซื้อ (Long Position) คำสั่ง Stop-loss จะถูกตั้งไว้ที่ราคาต่ำกว่าราคาเข้า

สำหรับสถานะขาย (Short Position) จะถูกตั้งไว้ที่ราคาสูงกว่าจุดเข้า กลไกนี้เป็นกลไกการบริหารความเสี่ยงอัตโนมัติที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้มั่นใจว่าสถานะที่ขาดทุนเพียงครั้งเดียวจะไม่สร้างความเสียหายอย่างไม่สมส่วนต่อบัญชีซื้อขาย กลไกนี้ตอบคำถามที่สำคัญที่สุดสำหรับการซื้อขายทุกครั้ง: "ฉันยินดีเสี่ยงมากแค่ไหนเพื่อดูว่าการวิเคราะห์ของฉันถูกต้องหรือไม่" การกำหนดจำนวนนี้ไว้ล่วงหน้าจะช่วยให้เทรดเดอร์ไม่ต้องแบกรับภาระทางอารมณ์ในการตัดสินใจในช่วงเวลาที่ตึงเครียด

ตรรกะของการอนุรักษ์ทุน

งานหลักของเทรดเดอร์ไม่ใช่การทำเงิน แต่คือการบริหารความเสี่ยง กำไรมักเป็นผลพลอยได้จาก การบริหารความเสี่ยง อย่างมีประสิทธิภาพ การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop-loss) คือการแสดงออกถึงหลักการนี้อย่างครบถ้วน หลักการนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการขาดทุนจะอยู่ในระดับที่น้อยและสามารถจัดการได้ทางคณิตศาสตร์

ยกตัวอย่างเช่น การฟื้นตัวจากการขาดทุน 50% จำเป็นต้องได้กำไร 100% จึงจะคืนทุน การจำกัดความเสี่ยงในการเทรดแต่ละครั้งให้อยู่ในสัดส่วนเงินทุนที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเพียงเล็กน้อย (เช่น 1% หรือ 2%) จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถรักษาระยะเวลาการเรียนรู้ให้ยาวนานขึ้นและเพิ่มโอกาสในการอยู่รอดในระยะยาว

วิธีการตั้งจุดตัดขาดทุน

การวางจุดตัดขาดทุนถือเป็นทักษะอย่างหนึ่ง ไม่ควรเป็นการตัดสินใจโดยพลการ ตำแหน่งของจุดตัดขาดทุนต้องมีความสมเหตุสมผล โดยพิจารณาจากโครงสร้างของตลาดหรือกฎการบริหารความเสี่ยงที่กำหนดไว้ การวางจุดตัดขาดทุนอย่างถูกต้องจะช่วยสร้างสมดุลระหว่างการเปิดโอกาสให้เทรดได้ทำกำไร และการตัดขาดทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

การตั้งจุดตัดขาดทุนแบบอิงกราฟ : วิธีนี้ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อระบุจุดที่ไม่สมเหตุสมผลสำหรับแนวคิดการซื้อขาย เทรดเดอร์จะตั้งจุดตัดขาดทุนในระดับที่โครงสร้างตลาดจะพิสูจน์ว่าแนวคิดเริ่มต้นนั้นผิด

  • สำหรับการซื้อขายระยะยาว อาจวางจุดหยุดการขาดทุนไว้ใต้จุดต่ำสุดของการแกว่งตัวล่าสุดหรือระดับแนวรับสำคัญ
  • สำหรับการซื้อขายระยะสั้น อาจวางไว้เหนือจุดสูงสุดของการแกว่งตัวล่าสุดหรือระดับแนวต้านสำคัญเล็กน้อย

มักถือกันว่านี่เป็นแนวทางที่เป็นมืออาชีพที่สุด เนื่องจากการหยุดนั้นเชื่อมโยงกับพฤติกรรมของตลาดเอง

จุดตัดขาดทุนแบบเปอร์เซ็นต์ : วิธีนี้เกี่ยวข้องกับการตั้งจุดตัดขาดทุนที่ราคาซึ่งสอดคล้องกับเปอร์เซ็นต์คงที่ของเงินทุนของเทรดเดอร์ กฎทั่วไปคือความเสี่ยงไม่เกิน 1% หรือ 2% ของยอดคงเหลือในบัญชีทั้งหมดในการซื้อขายครั้งเดียว

ตัวอย่างเช่น ในบัญชีมูลค่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ความเสี่ยง 1% จะเท่ากับ 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากนั้นขนาดของสถานะจะถูกคำนวณตามระยะหยุด (Stop Distance) เพื่อให้แน่ใจว่าจะขาดทุนสูงสุดที่ 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ วิธีนี้ช่วยสร้างความสม่ำเสมอในการบริหารจัดการเงิน


จุดตัดขาดทุนตามความผันผวน : ตลาดไม่ได้หยุดนิ่ง ความผันผวนของตลาดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ จุดตัดขาดทุนตามความผันผวนจะปรับตามสภาวะตลาดปัจจุบัน เทรดเดอร์สามารถใช้ตัวบ่งชี้เช่น Average True Range (ATR) เพื่อกำหนดจุดตัดขาดทุนที่สูงกว่าความผันผวนของราคาล่าสุดได้ ในช่วงที่มีความผันผวนสูง จุดตัดขาดทุนจะกว้างขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกระตุ้นจากความผันผวนของราคาปกติ ในช่วงที่ตลาดเงียบ จุดตัดขาดทุนจะแคบลง ซึ่งจะช่วยปรับความเสี่ยงให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน


Trailing Stop-Loss : Trailing Stop-Loss จะปรับโดยอัตโนมัติเมื่อการซื้อขายเป็นไปตามทิศทางของเทรดเดอร์ สำหรับสถานะ Long เมื่อราคาขยับขึ้น Stop-Loss ก็จะขยับขึ้นเช่นกัน แต่จะไม่ขยับลง วิธีนี้จะช่วยล็อกกำไรไว้ได้ ขณะเดียวกันก็ช่วยให้สามารถติดตามแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นต่อไปได้

สัญญาจะต้องได้รับการเคารพ

จุดตัดขาดทุนจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อปฏิบัติตาม หนึ่งในข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดและส่งผลเสียต่อนักลงทุนคือการย้ายจุดตัดขาดทุนเพื่อรองรับการเทรดที่ขาดทุน การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการละเมิดสัญญาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เป็นการตัดสินใจที่เกิดจากอารมณ์ เกิดจากความหวังว่าตลาดจะฟื้นตัว การรักษาวินัยหมายถึงการปฏิบัติต่อจุดตัดขาดทุนที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเสมือนเป็นขอบเขตที่ชัดเจนภายใต้เงื่อนไขที่เป็นรูปธรรม

เมื่อเปิดการซื้อขายแล้ว บทบาทของเทรดเดอร์คือการดำเนินการตามแผน ไม่ใช่การเขียนแผนใหม่ระหว่างทาง เมื่อเวลาผ่านไป วินัยนี้จะสร้างความสม่ำเสมอและความมั่นใจ

ข้อจำกัดที่อาจเกิดขึ้น

แม้ว่าจุดตัดขาดทุน (Stop-loss) จะเป็นองค์ประกอบสำคัญของการซื้อขายอย่างรอบคอบ แต่ก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เทรดเดอร์ต้องตระหนักถึงข้อจำกัดของมัน ในตลาดที่มีความผันผวนสูงหรือขาดสภาพคล่องสูง อาจเกิด “การลื่นไถล” ได้ ตัวอย่างเช่น ในช่วงที่ราคามีช่องว่างอย่างรวดเร็ว จุดตัดขาดทุนอาจทำงานที่ราคาถัดไป ซึ่งอาจส่งผลเสียได้น้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข้อจำกัดดังกล่าว เทรดเดอร์มืออาชีพส่วนใหญ่ยังคงมองว่าจุดตัดขาดทุน (Stop-loss) เป็นแนวป้องกันหลักในการรับมือกับความเสี่ยงขาลงที่ควบคุมไม่ได้ เป็นเครื่องมือสร้างโครงสร้างและการอยู่รอด ซึ่งเป็นกลไกที่ช่วยให้มั่นใจว่าเงินทุนจะถูกเก็บรักษาไว้สำหรับโอกาสในอนาคต

คำพูดสุดท้ายเกี่ยวกับความเสี่ยง

ไม่มีกลยุทธ์หรือรูปแบบคำสั่งใดที่สามารถขจัดความเสี่ยงโดยธรรมชาติของการซื้อขายได้ สภาวะตลาดอาจเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันและคาดเดาไม่ได้ และการขาดทุนก็เป็นส่วนหนึ่งของการเข้าร่วมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จุดประสงค์ของการตั้งจุดตัดขาดทุนไม่ใช่เพื่อรับประกันความสำเร็จ แต่เพื่อจัดการความไม่แน่นอนอย่างเป็นระบบและมีวินัย

การเทรดโดยไม่ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop-loss) คือการตัดสินใจที่จะยอมรับความเสี่ยงอย่างไม่จำกัด การเทรดโดยตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop-loss) คือการตัดสินใจที่จะเคารพความน่าจะเป็น โครงสร้าง และความยั่งยืน ในระยะยาว ความเคารพนี้ — ไม่ใช่การคาดการณ์ — คือสิ่งที่แยกเทรดเดอร์ที่มุ่งมั่นออกจากนักเก็งกำไรที่คาดหวัง

การซื้อขายมีความเสี่ยงสูง เนื้อหานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลและการศึกษาเท่านั้น และไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุน

ขับเคลื่อนโดย Google Translate
Company Information:YWO (the “Brand”) operates under multiple licenses issued by recognized financial regulatory authorities, ensuring compliance, transparency, and protection for our clients across jurisdictions.
YWO (CM) Ltd is authorized and regulated by the Mwali International Services Authority (M.I.S.A.) of the Union of the Comoros under License No. BFX2025026. The company is registered under HT00225012, with its registered office at Bonovo Road, Fomboni, Island of Moheli, Comoros Union.
YWO (PTY) Ltd is authorized and regulated by the Financial Sector Conduct Authority (FSCA) of South Africa under FSP License No. 54357. The registered office is located at 29 First Avenue East, Parktown North, Johannesburg, Gauteng, 2193, South Africa.
Regional Restrictions:YWO operates through its licensed entities, YWO (CM) Ltd and YWO (PTY) Ltd, each of which observes specific jurisdictional limitations:
  • YWO (CM) Ltd does not provide services to residents of the European Union (EU) or the United States (US).
  • YWO (PTY) Ltd does not provide services to residents of the European Union (EU), the United States (US), or South Africa.
None of the YWO entities offer services in any jurisdiction where such services would be contrary to local laws or regulatory requirements. The content on this website is provided for informational purposes only and does not constitute an offer or solicitation to any person in any jurisdiction where such distribution or use would violate applicable laws or regulations. YWO only accepts clients who initiate contact with us of their own accord.
Payment Agent: Cenaris Services Limited, a company incorporated under the laws of Cyprus with registration number HE473500, serves as the official payment agent for YWO (CM) Ltd. Its registered office is located at Trooditisis 11, Ground Floor, 2322, Lakatamia, Nicosia.
Risk Warning: Trading our products involves margin trading and carries a high level of risk, including the potential loss of your entire capital. These products may not be suitable for all investors. You should fully understand the risks involved before trading.
Disclosure: The YWO brand, including the licensed entities operating under it, does not provide financial advice, recommendations, or investment opinions regarding the purchase, holding, or sale of any financial instruments. Past performance is not a reliable indicator of future results. Any forward-looking statements or projections are for informational purposes only and must not be construed as guarantees of future performance. YWO is not a financial advisor and does not assume any fiduciary duty toward clients. All investment decisions are made independently by the client, who remains solely responsible for assessing the suitability and risks of any financial product or strategy. Clients are strongly encouraged to seek independent financial, legal, or tax advice where necessary.